. . . ร่วมด้วยช่วยกันเผยแพร่สื่อสารถึง"คนเสื้อแดง"ทั่วไทยและทั่วโลก . . . ขอขอบพระคุณเจ้าของclipภาพถ่ายและบทความทุกๆท่านที่กรุณาเอื้อเฟื้อแบ่งปัน . . .น้ำใจซื้อขายไม่ได้ แต่น้ำใจให้กันได้...อิอิ
DisplayUs.com

  

. . . รณรงค์พี่น้อง"คนเสื้อแดง"77จังหวัดทั่วไทย 3กรกฎาเข้าคูหากาเบอร์1 ส.ส.เพื่อไทย และกาเบอร์1 พรรคเพื่อไทย ให้จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว . . .

Playlist เลือกดูได้... 200 Clip สัมภาษณ์-ปราศรัย-วิสัยทัศน์ คุณปู "ยิ่งลักษณ์...ยิ่งดู...ยิ่งรัก"
  
[คลิกที่นี่...เว็บแรงงานนอกระบบ]
  

@ ปู้นนน...!!! คนเมืองใต้เจียงใหม่ของหมู่เฮาลงไปตางปู๊นนน..... * * @ 2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย


PlayListนี้ เริ่มต้นด้วย "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน" เรียงลำดับตั้งแต่ ตอนแรก ถึง ตอนปัจจุบัน ..ท้ายเพลย์ลิสท์เป็นคลิป "เมื่อศาลรัฐธรรมนูญกระทำขัดรัฐธรรมนูญ : จะทำอย่างไร?" วันพุธที่ 1 พฤษภาคม 2556 เวลา 13.00 - 16.00 น. ห้องกมลทิพย์ ชั้น 2 โรงแรมสุโกศล (สยามซิตี้เดิม) คลิปนี้..วิทยากร รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคิดเห็นเริ่มนาที 0:14:24
คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...
หรือคลิกที่นี่.. @ AsiaUpdate "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน"

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2554

"ประชานิยม" กับ "รัฐสวัสดิการ" ความเหมือนที่แตกต่างกันนะฮ้า...

Playlist เลือกดูได้... ณัฐวุฒิVSชำนิ, มิ่งขวัญ, ณัฐวุฒิ สิงห์บุรี2-06-54, ณัฐวุฒิ นนทบุรี3-06-54, เฉลิม,เชาวรินทร์,หมวดเจี๊ยบ,ณัฐวุฒิ บ่อหลา บางแค3-06-54, ดร.อภิวันท์,ณัฐวุฒิ,ยิ่งลักษณ์ ชลบุรี4-06-54, ณัฐวุฒิแถลงข่าว3-06-54, ก็ป้าเค้าแดงตัวจริง มาร์คเอ๊ย!!, สรยุทธสัมภาษณ์ หญิงเหล็กยิ่งลักษณ์9-06-54, ณัฐวุฒิ,เฉลิม,อภิวันท์,ยิ่งลักษณ์ ท่ามะกา 11 06 54, และอีกเยอะแยะ...

"ประชานิยม" กับ "รัฐสวัสดิการ" ความเหมือนที่แตกต่างกันนะฮ้า...
By: นางฟ้านะยะ

ความจริงสิ่งที่ทักษิณพยายามทำคือ "รัฐสวัสดิการ" แต่กลับไปเรียกว่า "ประชานิยม"

ส่วนสิ่งที่นายมาร์คทำนั้น จึงจะเรียกว่า "ประชานิยม" ถึงจะถูกต้อง

เพราะนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคนั้น คือการที่รัฐเอาเงินภาษีของประชาชนนั่นแหละ มาดูแลประชาชน

ส่วนนโยบายแจกเงินคนละ 2,000 บาทนั้น จึงจะเรียกว่าประชานิยม เพราะแจกจ่ายไม่ทั่วถึง อีกทั้งยังต้อง"กู้"เงินมาแจกอีกด้วย

มันจึงเป็นความเหมือนที่แตกต่าง

เพียงแต่คนที่เกลียดทักษิณนั้น พยายามจะโยงให้มันเป็นเรื่องประชานิยมให้ได้ ทั้งๆที่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ดีที่ควรจะเอาเงินภาษีมาดูแลความทุกข์สุขของประชาชน เพราะเป็นผู้เสียภาษี

ยิ่งประเทศไทยเรานั้น ใช้ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม นั่นหมายถึงว่า ทุกคนในประเทศไทยนั้น ไม่มีผู้ใดที่ไม่เสียภาษี ขึ้นอยู่กับว่าต้องจ่ายภาษีทางตรงหรือทางอ้อมเท่านั้น

ดังนั้น สิ่งที่ทักษิณบริหารเงินภาษีโดยเอามาทำเรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรคเป็นอันดับแรกนั้น ก็คือการเอาเงินภาษีมาดูแลประชาชนนั่นเอง

เพราะถ้ารัฐบาลใดรู้จักการดูแลสวัสดิการขั้นพื้นฐานให้ประชาชนพอใจได้ ประชาชนก็จะยินดีที่จะเสียภาษี มันเป็นหลักง่ายๆเท่านั้นเอง

ดูได้จากการเริ่มต้นโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคนั้น ความจริงก็ไม่สามารถรักษาได้ครบทุกโรค สามารถรักษาได้แต่เพียงโรคที่ไม่ร้ายแรงนักเท่านั้น

เมื่อรัฐบาลจัดเก็บภาษีได้เพิ่ม จึงเพิ่มโรคที่รัฐบาลสามารถให้การดูแลรักษาอีกทีหนึ่ง เช่น ผ่าตัดหัวใจ โรคไต ฯลฯ

แต่ทว่า คนที่คิดจะโจมตี ก็จะพูดแต่ว่าเป็นการใช้เงินมาซื้อเสียงประชาชน และพยายามจะโยงให้เป็นประชานิยมให้ได้

และทุกวันนี้ รัฐบาลนายมาร์คเองนั้นทำนโยบายประชานิยมยิ่งกว่าแบบไร้วิสัยทัศน์ ไร้เป้าหมาย โดยการกู้เงินมาสนับสนุนโครงการ มันยิ่งทำให้คนบางคนมองนโยบายรัฐกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายไปทั้งหมด

แต่นโยบายของทักษิณนั้น คือการพยายามเอาเงินภาษีที่เก็บได้มาจัดสรรนโยบายต่างหาก มันต่างกันตรงนี้

ฉะนั้น ก่อนที่ทักษิณจะทำนโยบายอะไรออกมา จะต้องมองหาเม็ดเงินก่อนว่า จะเอาเงินจากไหนมาทำนโยบาย

ส่วนนายมาร์คนั้น ตั้งงบกู้เผื่อแบบสูงลิบถึง 800,000 ล้านบาท แล้วค่อยหานโยบายมาใช้ให้มันหมดไปเท่านั้น เงินที่จ่ายไป จึงทำแบบไร้ค่า และสร้างปัญหาตามมาด้วยทำให้ประเทศชาติมีหนี้สินเพิ่มขึ้นอย่างไร้ความจำเป็น

เพียงเพราะต้องการที่จะเลียนแบบ หวังว่าจะได้ใจจากประชาชนเหมือนอย่างที่ทักษิณเคยทำสำเร็จเอาไว้มาก่อน คิดได้เพียงเท่านี้จริงๆ

จึงมีโครงการแปลกๆ เช่น ต้นกล้าอาชีพ แจกเงินคนละ 2,000 บาท หรือการยกเลิกเก็บเงิน 30 บาท ฯลฯ

ดังนั้น ใครที่พยายามจะใช้คำว่า"ประชานิยม"มาโจมตีทักษิณ และบอกว่ามันเป็นสิ่งไม่ดีนั้น จึงเป็นการที่มองโลกในแง่ร้ายเกินไป

รัฐบาลที่ดี คือ ต้องรู้จักการเอาเงินภาษีมาดูแลความทุกข์สุขของประชาชน ซึ่งประเทศพัฒนาแล้วทุกประเทศเขาก็ทำกันแบบนี้

ส่วนรัฐบาลที่เลวนั้น คือ ไปกู้เงินเพื่อมาหว่านเพียงหวังผลว่าประชาชนจะเห็นถึงผลงาน เช่นที่รัฐบาลชุดนี้กำลังทำอยู่

ฉะนั้น สิ่งที่ทักษิณทำ คือพยายามจะเอาเงินภาษีของประชาชนมาเป็นสวัสดิการให้กับประชาชน

แต่มาร์คนั่นแหละ กำลังทำ"ประชานิยม"โดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้น

"รัฐสวัสดิการ"ของทักษิณมันต่างกับ"ประชานิยม"ของนายมาร์คตรงนี้แหละฮ้า



เพราะ"ดีแต่พูด" คะแนนมาร์คเลย"รูดทะราด"
By: นางฟ้านะยะ

ไม่น่าเชื่อ

เพียงแค่ 2 ปีกว่าเท่านั้น

จากนายมาร์คที่ภาพพจน์ดี มีอนาคตไกล กลับกลายเป็นคนที่ถูกประชาชนมองว่าเป็นคน"ดีแต่พูด"ไปได้

ก็เพราะประสบการณ์ด้านการเมืองเยอะ แต่ประสบการณ์ด้านการบริหารนั้นไม่มี ทั้งชีวิตมีแต่คนอุ้มชู วางแผนให้เดิน มันเลยเป็นแบบนี้

สมแล้วที่ลุงหมักที่ถือว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์ชีวิตที่สูงมากจะตั้งฉายาให้ว่า"มะม่วงจำบ่ม"เมื่อคราวที่มาร์คลงสนามการเลือกตั้งแข่งกับพรรคพลังประชาชนที่เพิ่งจะตั้งขึ้นมา

เพราะความจริง ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น มันไม่ใช่ที่ใครๆก็สามารถจะมาเป็นได้

นอกจากจะต้องมีความสามารถในการควบคุม สส. ที่แต่ละคนนั้นขึ้นชื่อว่าเป็น เสือ สิงห์ กระทิง แรด ให้อยู่หมัดให้ได้แล้ว

ยังต้องมีความสามารถในการวางนโยบายของประเทศว่าจะเดินไปข้างหน้าอย่างไร จึงจะทำให้ประชาชนนั้นอยู่ดีกินดีได้

ตลอดเวลาที่นายมาร์คบริหารประเทศนั้น มีแต่เอาผลประโยชน์ของประเทศชาติเข้าแลกกับการที่ สส. จะยกมือโหวตให้ในสภา เห็นได้ชัดจากการที่เอารัฐมนตรีกระทรวงสำคัญไปให้กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งผิดวิสัยของรัฐบาลในการที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ไปข้างหน้าได้

ทั้งๆที่พรรคตัวเองมี สส. มากที่สุด รัฐมนตรีหลักในการพัฒนาและดูแลเศรษฐกิจกลับไปอยู่ในความดูแลของ สส. พรรคเล็กๆอย่างพรรคภูมิใจไทยได้ แต่มาร์คก็ยอม

มันชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลชุดที่ผ่านมานั้น ตั้งขึ้นมาได้จากการแบ่งปันผลประโยชน์ของกลุ่มตัวเองทั้งสิ้น โดยที่ประชาชนที่ไปลงคะแนนนั้น เป็นเพียงสะพานให้พวกเขาก้าวขึ้นไปสู่อำนาจและผลประโยชน์เท่านั้น

มันจึงทำให้ 2 ปีกว่าที่ผ่านมา จึงมีแต่ข่าวโกงกิน คอรัปชั่น ไม่เว้นแต่ละวัน และนายมาร์คก็ไม่กล้าที่จะจัดการอะไรได้อย่างเด็ดขาด กอร์ปกับตัวนายมาร์คเองก็ไม่มีประสบการณ์ในเชิงบริหารมาก่อน จึงตามไม่ทันกับเศรษฐกิจโลกที่มีการแข่งขันด้วยชั้นเชิง ที่ไม่ใช่ว่าทุกๆคนจะอ่านเกมขาดได้ง่ายๆ ผลงานมันจึง"รูดทะราด"อย่างเช่นทุกวันนี้

ฉะนั้น เพียงแค่ 2 ปีกว่าเท่านั้น มันจึงทำลายภาพพจน์นายมาร์คจนหมดสิ้น

และเพียง 2 ปีกว่าเท่านั้น ประชาชนจึงรับไม่ได้กับการบริหารงานที่อ่อนหัด ที่ไม่สามารถแม้แต่จะดูแลเรื่องน้ำมันปาล์มที่ประเทศไทยเป็นประเทศส่งออก ประชาชนกลับต้องไปยืนเข้าคิวซื้อกันทีละขวด หรือการออกนโยบายขายไข่ชั่งกิโล

ยิ่งคนไทยเคยผ่านช่วงที่ทักษิณได้เคยบริหารประเทศมาก่อนแล้ว จึงเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน

ผลโพลต่างๆที่บอกว่าพรรค ปชป. ตามหลังพรรค เพื่อไทย อย่างรูดทะราด เช่นทุกวันนี้

ก็เพราะประชาชนเขารู้จักการเปรียบเทียบ ชีวิตความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ลงไปทุกวัน สินค้าราคาสูงขึ้นทุกวันโดยที่รัฐไม่สามารถทำอะไรได้เลย

รัฐบาลได้แต่ใช้สื่อที่มีอยู่ ประโคมข่าวว่าตัวเลขเศรษฐกิจดี ในขณะที่ความจริงที่ประชาชนสัมผัสได้จากชีวิตประจำวันนั้น มันต่างกันลิบลับ ประชาชนจึงไม่เชื่อถือ

การที่โพลทุกโพลสำรวจออกมาทุกครั้ง พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำทุกที ก็เพราะพรรค ปชป. บริหารประเทศจนประชาชนทุกคนเห็นด้วยว่าเป็นรัฐบาลที่"ดีแต่พูด"นี่แหละ

นางฟ้าไม่เชื่อในโพล เพราะผลสำรวจของโพลนั้นมันได้แต่รู้คะแนนคร่าวๆเท่านั้น ความจริงอาจจะดีหรือแย่กว่าก็เป็นได้

เพียงแต่ที่แน่นอนที่สุดก็คือ คะแนนนิยมที่อยู่ในโพลนั้น เป็นการสำรวจจากประชาชนที่ให้คำตอบด้วยความบริสุทธิ์ ไม่มีอามิสสินจ้างเหมือนกับการไปลงคะแนน

โพลอาจจะผิดเพี้ยนขึ้นได้ หากคนไปสุ่มสำรวจไม่ถูกต้องเท่านั้น เพียงแต่แปลกใจว่าทำไมทุกโพลจึงออกมาใกล้เคียงกันได้

การที่โพลทุกโพลที่ออกมา พรรค ปชป. แพ้พรรคเพื่อไทยแบบรูดทะราด ก็เพราะมาร์คบริหารประเทศแบบ"ดีแต่พูด"นี่แหละฮ้า