. . . ร่วมด้วยช่วยกันเผยแพร่สื่อสารถึง"คนเสื้อแดง"ทั่วไทยและทั่วโลก . . . ขอขอบพระคุณเจ้าของclipภาพถ่ายและบทความทุกๆท่านที่กรุณาเอื้อเฟื้อแบ่งปัน . . .น้ำใจซื้อขายไม่ได้ แต่น้ำใจให้กันได้...อิอิ
DisplayUs.com

  

. . . รณรงค์พี่น้อง"คนเสื้อแดง"77จังหวัดทั่วไทย 3กรกฎาเข้าคูหากาเบอร์1 ส.ส.เพื่อไทย และกาเบอร์1 พรรคเพื่อไทย ให้จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว . . .

Playlist เลือกดูได้... 200 Clip สัมภาษณ์-ปราศรัย-วิสัยทัศน์ คุณปู "ยิ่งลักษณ์...ยิ่งดู...ยิ่งรัก"
  
[คลิกที่นี่...เว็บแรงงานนอกระบบ]
  

@ ปู้นนน...!!! คนเมืองใต้เจียงใหม่ของหมู่เฮาลงไปตางปู๊นนน..... * * @ 2กุมภา..กาเบอร์ 15 ทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย


PlayListนี้ เริ่มต้นด้วย "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน" เรียงลำดับตั้งแต่ ตอนแรก ถึง ตอนปัจจุบัน ..ท้ายเพลย์ลิสท์เป็นคลิป "เมื่อศาลรัฐธรรมนูญกระทำขัดรัฐธรรมนูญ : จะทำอย่างไร?" วันพุธที่ 1 พฤษภาคม 2556 เวลา 13.00 - 16.00 น. ห้องกมลทิพย์ ชั้น 2 โรงแรมสุโกศล (สยามซิตี้เดิม) คลิปนี้..วิทยากร รศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคิดเห็นเริ่มนาที 0:14:24
คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...
หรือคลิกที่นี่.. @ AsiaUpdate "เล่าเรื่อง ตาดูดาวเท้าติดดิน"

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

คลิกที่นี่ ดูบนyoutube...

วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

6 ปีแล้วหรือ...คนไทยได้อะไร ???? ใครสั่งฆ่า? ... วางระเบิดเครื่องบินทักษิณ 3 มีนาคม 2544

@ เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00... ตอนที่ 8...กลับไปทำงาน 2 job ใหม่ กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากที่จากมาแล้วเกือบสิบปี เริ่มค้าขาย ชีวิตหักเหอีกครั้ง
@ ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk
@ สาเหตุที่มึงป่วย...เพราะ...โง่...
@ ไม่รีบเค้นออกมาจะเสียใจ...พรสวรรค์หรือความสามารถพิเศษของเด็กๆ
@ โอ้กรุงเทพเมืองฟ้าอมร สมเป็นนครมหานที...
@ พิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าหญิงฮาจาห์ ฮาฟิซาห์ ซูรูรุล โบเกียะห์ พระธิดาสุลต่านบรูไน
@ ขอต้อนรับ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะ สู่มหานครนิวยอร์ก คลิกที่นี่...
@ สิ่งที่ควรรู้ ก่อนเรียน Master of Business Administration (MBA)
@ มองโครงการรับจำนำข้าวในสายตาของชาวนาตัวจริง...
@ ภาพชุด..นายกฯปู ร่วมประชุม สุดยอด ACD กรอบความร่วมมือเอเชีย ที่คูเวตซิตี้
@ สดุดี..นโยบายบัตรทองประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค
@ ดร.ถวิล อธิการบดี"สจล." เปิดเบื้องหลังค่ายมือถือไม่เคาะราคา 3จี แฉใกล้หมดยุค ระบุล้มประมูล รัฐฯพังยับ
@ นานาคอมเม้นท์ ถึง..คุณจตุพร พรหมพันธุ์
@ ทักษิณคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน...เพื่อประเทศและประชาชน
@ Obama' ประเด็นที่สื่อไทยเมิน & อัลบั้มโอบามาเยือนไทย 18พ.ย.55
@ ถ่ายทอดสด... วิทยุรัฐสภา & โทรทัศน์รัฐสภา
@ ความผิดพลาดของ ปชป. ที่หวังเล่นงาน นายกฯปู

คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...


6 ปีแล้วหรือ...คนไทยได้อะไร ???? ใครสั่งฆ่า? ... วางระเบิดเครื่องบินทักษิณ 3 มีนาคม 2544
ย้อนรอยโดย: Leeds01 เว็บชุมชนคนเหมือนกัน อ่านฉบับเต็ม คลิกที่นี่...

วันที่ 3 มีนาคม 2544 หลายคนยังจำกันได้ในสมัย "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" เป็นนายกรัฐมนตรี ในครั้งนั้นเป็นข่าวครึกโครมไปทั่วประเทศและทั่วโลก เมื่อเครื่องบินของสายการบินไทยที่จอดเทียบท่าอยู่สนามบินดอนเมืองเพื่อรอรับผู้โดยสารบินไปยังจังหวัดเชียงใหม่ โดยหนึ่งในผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าว มีผู้นำของประเทศชื่อ "พ.ต.ต.ทักษิณ ชินวัตร" รวมอยู่ด้วย

ก่อนที่ผู้โดยสารขึ้นเครื่องไม่กี่นาที เครื่องบินลำดังกล่าวเกิดระเบิดขึ้นกลางสนามบินดอนเมือง สร้างความแตกตื่นให้กับผู้คนจำนวนมาก โชคดีของผู้โดยสารที่ยังไม่มีใครขึ้นบนเครื่องบิน จึงไม่มีใครสังเวยชีวิตในครั้งนั้น แต่ก็เป็นที่กังขาของหลายฝ่ายว่าระเบิดเครื่องบินไทยครั้งนั้นเกิดจากเหตุอะไรกันแน่ ลอบวางระเบิดนายกฯ..? วินาศกรรม..? ความประมาท..? อุบัติเหตุ..? จนวันนี้คำถามเหล่านี้ก็ยังไม่ได้รับความชัดเจน

24 ชั่วโมงของทักษิณ: บทที่ 1 เสียงโทรศัพท์ยามรุ่งอรุณ (ตอนที่1)

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทักษิณเอาชีวิตรอดมาได้ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2544 เมื่อเขาได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียง 25 วันเขาก็ได้รับรู้รสชาติของการถูกลอบสังหารในวันนั้น

เครื่องบินโบอิ้ง 747 ลำหนึ่งของการบินไทยซึ่งบรรทุกผู้โดยสารจำนวน 129 คนเดินทางจากกรุงเทพฯไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ผู้โดยสารบนเครื่องซึ่งรวมทั้งทักษิณที่เพิ่งได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยลูกชายรวมทั้งข้าราชการจำนวน 20 คนเตรียมพร้อมขึ้นเครื่อง วินาทีที่เครื่องบินเตรียมทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้านั้น ที่นั่งชั้นหนึ่งหมายเลข 11A ที่เขาได้จองไว้เกิดระเบิดขึ้นกะทันหัน ผู้โดยสารที่อยู่บริเวณรอบๆที่นั่งนั้นได้รับบาดเจ็บจำนวนมากแต่ที่โชคดีก็คือที่นั่งนี้ไม่มีใครนั่งอยู่ในตอนนั้น ทักษิณผู้ซึ่งตรงต่อเวลามาโดยตลอดตัดสินใจที่จะรอลูกชายซึ่งก็คือนายพานทองแท้ ที่มาถึงช้า วันนั้นลูกชายก็ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมถึงมาช้า 25 นาที แต่ในที่สุดก็ได้ช่วยชีวิตพ่อของตนไว้ได้


เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน กองสรรพาวุธ สถาบันนิติเวชวิทยา พนักงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และแผนกทำลายวัตถุระเบิด กรมสรรพาวุธทหารอากาศ ได้นำเขม่าที่ติดอยู่กับชิ้นส่วนของเครื่องบินและที่ศพผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบด้วยเครื่องมือ Gas Chromatograph พบสาร Research Department Explosive (RDX) เป็นส่วนใหญ่ และสารประกอบประเภท Chlorates ด้วย โดยที่สาร RDX เป็นส่วนประกอบ สำคัญของดินระเบิดแบบซีโฟร์ (Composition-4) คณะพนักงานสอบของ สตช.ได้ข้อสรุปเบื้องต้น เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2544 ว่า

การระเบิดขึ้นในบริเวณห้องเก็บสินค้าส่วนด้านหน้าในสุดค่อนไปทางซ้ายของลำตัวเครื่องบินบริเวณใต้ที่นั่งชั้นประหยัด (Y-Class) หมายเลข 32-36 ห่างจากที่นั่งชั้นธุรกิจ (J-Class) ประมาณ 5-6 แถว


รายงานการปฏิบัติของคณะกรรมการสอบสวนกรณีอันเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักรกรณีเครื่องบินแบบ BOEING 737-400 เกิดเหตุเพลิงไหม้

คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ รายงานการปฏิบัติของคณะกรรมการสอบสวนกรณีอันเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยาน ในราชอาณาจักร กรณีเครื่องบินแบบ BOEING 737-400 เกิดเหตุเพลิงไหม้ สรุปได้ดังนี้

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2544 เครื่องบินแบบ BOEING 737-400 เครื่องหมายสัญชาติและทะเบียน HS-TDC ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้เกิดเพลิงลุกไหม้เครื่องบินทั้งลำ ขณะจอดอยู่ที่บริเวณหลุมจอดที่ 62 ท่าอากาศยานกรุงเทพ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 6 คน เสียชีวิตจำนวน 1 คน และเครื่องบินได้รับความเสียหายทั้งลำ

เครื่องบินลำดังกล่าวซึ่งทำการบิน เส้นทางภายในประเทศและเส้นทางระหว่าง ประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2544 ได้ทำการบินมาแล้วจำนวน 4 เที่ยวบิน คือ เส้นทางกรุงเทพฯ-ตรัง และ ตรัง-กรุงเทพฯ เส้นทาง กรุงเทพฯ-พิษณุโลก และ พิษณุโลก-กรุงเทพฯ ขณะที่เครื่องบินจอดบริเวณหลุมจอดที่ 62 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ท่าอากาศยานกรุงเทพ เพื่อจะทำการบินในเที่ยวบินที่ 5 เส้นทาง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ในเวลา 15 นาฬิกา 15 นาที โดยก่อนเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานต่อเครื่องบิน จำนวน 5 กลุ่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่ของบริษัท การบินไทยฯ ได้ทำการตรวจซ่อมเครื่องปรับอากาศของเครื่องบินลำนี้ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2544 เวลา 11 นาฬิกา 25 นาที ที่ท่าอากาศยานกรุงเทพ ก่อนทำการบินไปท่าอากาศยานพิษณุโลก ต่อมาเวลาประมาณ 15 นาฬิกา 40 นาที เครื่องบินลำดังกล่าวได้เกิดระเบิด และเกิดเพลิงลุกไหม้บริเวณกลางลำตัวเครื่องบินลุกลามไปส่วนต่างๆของเครื่องบินอย่างรวดเร็ว และอีก 18 นาทีต่อมา ถังเชื้อเพลิงที่ปีกขวาเกิดระเบิด จากเหตุการณ์นี้ทำให้เครื่องบินได้รับความเสียหายทั้งลำ


การปฏิบัติของหน่วยที่รับผิดชอบภายหลังเครื่องบินเกิดเหตุระเบิด

1. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน กองสรรพาวุธ สถาบันนิติเวชวิทยา พนักงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และแผนกทำลายวัตถุระเบิด กรมสรรพาวุธทหารอากาศ ได้นำเขม่าที่ติดอยู่กับชิ้นส่วนของเครื่องบินและที่ศพผู้เสียชีวิตไปตรวจ สอบด้วยเครื่องมือ Gas Chromatograph พบสาร Research Department Explosive (RDX) เป็นส่วนใหญ่ และสารประกอบประเภท Chlorates ด้วย โดยที่สาร RDX เป็นส่วนประกอบสำคัญของดินระเบิดแบบซีโฟร์ (Composition-4) คณะพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ข้อสรุปเบื้องต้นเมื่อ วันที่ 6 มีนาคม 2544 ว่าการระเบิดเกิดขึ้นในบริเวณห้องเก็บสินค้าส่วนด้านหน้าในสุด ค่อนไปทางซ้ายของลำตัวเครื่องบิน บริเวณใต้ที่นั่งชั้นประหยัด (Y-Class) หมายเลข32-36 ห่างจากที่นั่งชั้นธุรกิจ (J-Class) ประมาณ 5-6 แถว

2. ในวันที่ 6 มีนาคม 2544 คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้จัดให้มีการประชุมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ปรากฏว่าที่ประชุมยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นการก่อวินาศกรรมหรืออุบัติเหตุ ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติให้คณะกรรมการสอบสวนฯจะดำเนินการควบคู่ไปกับคณะกรรมการสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็น Accredit Representative และคณะที่ปรึกษา เข้าร่วมการสอบสวนกับคณะกรรมการสอบสวนฯ

3. ต่อมาคณะเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของหน่วยงานสหรัฐฯ ได้แก่ National Transportation Safety Board (NTSB) เป็น หน่วยงานในการสอบสวนกรณียานพาหนะของสหรัฐอเมริกาประสบอุบัติเหตุ และ Federal Aviation Abministration (FAA) เป็นหน่วยงานที่ควบคุมเกี่ยวกับกฎระเบียบการบินของสหรัฐฯ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคของบริษัทโบอิ้ง Boeing ได้ขอเข้าร่วมการสอบสวนกับคณะกรรมการสอบสวนฯในฐานะประเทศผู้สร้างเครื่องบิน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็น Accredit Representative และเป็นคณะที่ปรึกษา หลังจากผู้เชี่ยวชาญจากประเทศสหรัฐอเมริกาได้ตรวจสอบซากเครื่องบินพบว่ามีการระเบิดของถังเชื้อเพลิงกลางลำตัวเครื่องบิน (Center Tank) โดยสาเหตุหลักที่นำไปสู่การระเบิดของถังเชื้อเพลิงฯนั้น สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากเหตุ 3 ประการ คือ

1) การวางระเบิดในห้องผู้โดยสาร (Cabin) เหนือบริเวณถังเชื้อเพลิงกลางลำตัวเครื่องบิน

2) จากระบบของเครื่องบิน บริเวณถังเชื้อเพลิงกลางลำตัวเครื่องบิน

3) จากเหตุอื่นๆ ซึ่งยังไม่สามารถพบหลักฐานในขณะนี้

4. จากการนำชิ้นส่วนตัวอย่างส่งไปวิเคราะห์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในเบื้องต้นไม่พบสาร RDX และต้องนำชิ้นส่วนตัวอย่างอื่นๆของเครื่องบินไปทำการวิเคราะห์หาสารเคมีต่อไปซึ่งจะต้องใช้เวลาในการตรวจพิสูจน์อีกระยะหนึ่ง

ในวันที่ 21 มิถุนายน 2544 NTSB ได้มีหนังสือแจ้งผลการดำเนินงานไปแล้ว โดยได้ถอดและแยกชิ้นส่วนต่างๆที่นำมาจากเครื่องบินเพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียดในห้องปฏิบัติการ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่พบต้นเหตุของการจุดระเบิด ปั๊มเชื้อเพลิงและเครื่องวัดเชื้อเพลิงยังต้องทำการตรวจสอบต่อไปเนื่องจากพบว่ามีรอยขูดขีดและมีวัตถุแปลกปลอมถูกกดเข้าไป ในขณะที่ FUEL GAGE CONNECTOR เกิดความเสียหาย ซึ่งอาจเนื่องมาจากไฟฟ้าลัดวงจร จึงต้องทำการตรวจสอบ โดยใช้ SCANNING ELECTRON MICROSCOPE ขณะนี้ได้ทำการทดสอบปั๊มเชื้อเพลิงไปแล้วหนึ่งเรื่อง และกำลังวางแผนในการทดสอบอื่นๆต่อไป เพื่อหาความเป็นไปได้ของ การเกิดประกายไฟ ขณะที่วัตถุแปลกปลอมถูกดูดเข้าไป และแหล่งของการจุดระเบิดที่เป็นไปได้ ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการทำงานของมอเตอร์หรือลูกปืนปั๊มเชื้อเพลิงเป็นระยะเวลานานโดยไม่มีการระบายความร้อนจากเชื้อเพลิง

ในวันที่ 6 สิงหาคม 2544 คณะเจ้าหน้าที่จาก NTSB และ BOEING จำนวน 5 คน ได้เดินทางมายังประเทศไทย และได้บรรยายสรุปการปฏิบัติงานที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ณ ห้องประชุม ฝ่ายเสนาธิการทหารอากาศ โดยมี ประธานคณะกรรมการสอบสวนกรณีอันเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักร เป็นประธานฯ โดยสรุปได้ดังนี้ ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบเพิ่มเติมหลังจากที่บรรยายสรุป คณะเจ้าหน้าที่จาก NTSB และ BOEING ได้เดินทางไปโรงเก็บซากชิ้นส่วนเครื่องบิน เพื่อตรวจสอบและคัดเลือกชิ้นส่วนใหม่ที่เกี่ยวข้องในช่วงระหว่างวันที่ 6-10 สิงหาคม 2544 ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการสอบสวนฯ ทั้งนี้ เพื่อนำไปตรวจสอบเพิ่มเติม ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา

จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ซากเครื่องบิน ชิ้นส่วนต่างๆ ตลอดจนการส่งชิ้นส่วนไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการอย่างละเอียด ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่คาดว่าจะนำไปสู่การระเบิด แต่มีอุปกรณ์หลายอย่างอยู่ระหว่างการตรวจสอบวิเคราะห์ เช่น เครื่องวัดปริมาณเชื้อเพลิงอาจมีการลัดวงจรเกิดขึ้นภายในเครื่องวัด สวิตซ์ไฟฟ้า (FLOAT SWITCH) ในถังเชื้อเพลิงด้านขวาเกิดการแตกร้าว ปั๊มเชื้อเพลิงที่ถังเชื้อเพลิงกลางพบมีสิ่งแปลกปลอมและรอยขีดข่วนเกิดขึ้นภายใน และถ่ายเทประจุไฟฟ้าสถิต (STATIC ELECTRICITY) ที่สาย BONDING ของชุด VENT VALVE ของถังเชื้อเพลิง เป็นต้น ในการดำเนินการขั้นต่อไปของคณะเจ้าหน้าที่จาก NTSB จะได้ทำการตรวจสอบวิเคราะห์ต่างๆที่มีสิ่งผิดปกติดังกล่าวข้างต้น และนำชิ้นส่วนใหม่

ในวันที่ 2 ตุลาคม 2544 The National Transportation Safety Board (NTSB) ได้แจ้งให้ทราบว่า

1. จากการพบร่องรอย (Marks) ที่บริเวณ Pump Inlets NTSB ร่วมกับ Federal Aviation Administration (FAA) และบริษัท Boeing ได้จัดเตรียมแผนการตรวจสอบการทำงานของ Pump ดังกล่าว ซึ่งห้องทดลองได้ถูกสร้างขึ้นโดย บริษัท Boeing

2. ชิ้นส่วนต่างๆได้แก่ Wiring, Fuel Vent Valves, Fuel Quantity Probes และ Fuel Filter ได้ถูกจัดส่งไปยังห้องทดลองต่างๆเพื่อทำการตรวจสอบ ในวันที่ 4 ตุลาคม 2544 NTSB ได้แจ้งให้ทราบว่า มีความจำเป็นต้องรื้อ Wing Tank Fuel Pumps ทั้งสอง เพื่อตรวจสอบ ซึ่งจะทำให้ Pumps ทั้งสองดังกล่าวไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้อีก คณะกรรมการสอบสวนฯจึงได้แจ้งให้ NTSB ทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป

ในวันที่ 4 มกราคม 2545 NTSB ได้ส่งรายงานการตรวจสอบรูบริเวณผนังด้านข้างของเครื่องบินว่า ลักษณะรอยแตกและการเสียรูปของรูดังกล่าว เกิดจากการโดนวัตถุทะลุพื้นผิวจากภายนอกเข้าไปยังภายใน จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบไว้ในชั้นหนึ่งก่อน และหากมีข้อมูลเพิ่มเติมจักได้รายงานให้ทราบต่อไป



คาร์บอมบ์ ?????


พ.ต.ท.ทักษิณ: ถ้าดูจากการวางกระสอบทราย การบังคับทิศทางอะไรต่างๆ เจ้าหน้าที่ รปภ. ตนเห็นรถคันนี้ที่จอดอยู่ เขาวิทยุแจ้งข้างหลังว่ามีรถเป้าหมาย เพราะเนื่องจากเขามีรูปถ่ายรถคันนี้อยู่ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.มีตุ๊กตา มีอะไรรูปพรรณสัณฐาน และทะเบียนปลอมที่ใช้ก็ใช้ทะเบียนเดิมกับที่ไปจอดเมื่อวันที่ 9 ส.ค. โดยจอดที่ทางออกสนามบิน เมื่อวานที่ผมพูดบางคนไม่รู้ นึกว่ารถไปวนเวียนที่บ้านไม่ใช่ คือไปตั้งแต่วันที่ 9-10 ส.ค.นั้นคือที่ บน.6 ทางออกจาก บน.6 แถวร้านเจ๊เล้งตรงนั้น

คำถาม: เห็นบอกว่ามีคนอยู่เบื้องหลังเป็นกลุ่มบุคคล

พ.ต.ท.ทักษิณ: วันนั้นที่เขาบอกมามันมีชื่อ ประมาณ 4 คน เป็นทหารหมดเลย

คำถาม: ผู้ต้องหายังปากแข็งจะทำให้เป็นปัญหาสาวไม่ถึงตัวบงการ

พ.ต.ท.ทักษิณ: ที่ให้การค่อนข้างจะโกหกอย่างชัดเจน เพราะรถคันนี้ออกจาก กอ.รมน. บังเอิญเราให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปขอความร่วมมือเอาสมุดคุมรถเข้า-ออก ก็รู้ว่ารถคันนี้ออกเมื่อเวลา 05.45 น. ออกจาก กอ.รมน.

คำถาม: แสดงว่าดูจากหลักฐานแล้วเป็นการวางแผนกันเป็นขบวนการ

พ.ต.ท.ทักษิณ: ใช่

คำถาม: ขบวนการตรงนี้ใหญ่มากจะสาวถึงตัวผู้บงการหรือไม่

พ.ต.ท.ทักษิณ: พอรู้กลุ่ม แต่ต้องจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่ม ....."

@ บิ๊ก ตร.ยันคดีลอบสังหารยังไม่มีจับเพิ่ม

ทีมตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนคดีลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกับพวก เครียดจัดข่าวออกมาทำสับสน เรียกประชุมกำหนด 4 นายตำรวจเป็นผู้ให้ข่าวสื่อมวลชน ด้านชุดเชี่ยวชาญวัตถุระเบิดนครบาล นำรถทดสอบระเบิดโดยจำลองย่อส่วนขนาด 1 ต่อ 4 แบบเดียวกับที่คนร้ายใช้วางไว้ในรถแดวูคันก่อเหตุในค่ายทหารพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ผลรถทดลองระเบิดแหลกเหลือแต่ซาก เตรียมใช้เป็นข้อมูลนำสืบมัดขบวนการลอบสังหาร ขณะที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รอง ผอ.กอ.รมน.) ออกมาปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณที่เกิดขึ้นและบอกว่าคนไทยกำลังได้ดูหนังสนุก

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 กันยายน พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ยืนยันว่ายังไม่มีการดำเนินออกหมายจับหรือหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องในคดีเพิ่มเติม ยังคงมีแค่ 5 นายทหารซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาพยายามลอบสังหารนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ พ.ท.มนัส สุขประเสริฐ พ.อ.สุรพล สุประดิษฐ์ หรือเสธ.ตี๋ พล.ต.ไพโรจน์ ธีระภาพ ซึ่งยังให้การปฏิเสธ และ จ.ส.อ.ชาคริต จันทระ หรือจ่ายักษ์ ผู้ต้องหาคนเดียวซึ่งให้การรับสารภาพและซัดทอดผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด

@ เครียดข่าวสับสน-ตั้ง 4 นาย ตร.ให้ข่าวสื่อ

ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผบช.ก. พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผู้บังคับการกองบังคับการกองปราบปราม (ผบก.บก.ป.) ร่วมกันแถลงข่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า ตลอดเวลาที่คณะพนักงานสอบสวนได้ร่วมกันทำคดีมา พนักงานสอบสวนจะไม่ให้ข่าวที่เกินกว่าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานได้ ไม่เคยให้ข่าวล่วงหน้า แต่ขณะนี้ข่าวที่ออกมาอยากให้เข้าใจว่าทำให้เกิดความสับสนอย่างมาก สังคมจะเข้าใจผิดว่าพนักงานสอบสวนนำความลับไปเปิดเผยหรือทำให้กระทบกับผู้อื่นที่อาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

@ ห่วงข้อมูลสำนวนหลุดทำ ตร.ขัดแย้งทหาร

ส่วนความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวน พล.ต.ท.มนตรีกล่าวว่า ยังคงมีผู้ต้องหาในคดีเพียง 5 ราย ส่วนพยานหลักฐานที่ได้มาเพิ่มเติมต้องขอเวลาตรวจสอบ และวิเคราะห์ความเกี่ยวข้องว่าเชื่อมโยงกับคดีได้หรือไม่เพียงใด สำหรับกรณีที่จะมีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมนอกจากนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวพนักงานสอบสวนหลายนายได้ติดต่อมายังผู้สื่อข่าว พร้อมกับสอบถามถึงแหล่งที่มาของข่าวที่หลุดออกไปยังสื่อมวลชน เนื่องจากหลายเรื่องที่หลุดออกมานั้นอยู่ในสำนวนการสอบสวนจริง ขณะที่บางเรื่องเป็นเรื่องที่ชุดสืบสวนในทางลับกำลังติดตามอยู่ พนักงานสอบสวนจึงพยายามขอร้องไม่ให้นำข้อมูลแนวทางการสืบสวนของตำรวจไปเปิดเผย เพราะเกรงว่าข้อมูลที่หลุดออกไปจะทำให้เกิดความขัดแย้งกันระหว่างทหารกับตำรวจ เนื่องจากมีนายทหารระดับสูงหลายนายที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้

@ สอบปากคำเพิ่ม 4 ทหารผู้ต้องหา

ต่อมาเวลา 13.30 น. พนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำตัว จ.ส.อ.ชาคริต หรือจ่ายักษ์ จากห้องคุมขังไปสอบสวนเพิ่มเติม โดยมีตำรวจคอมมานโดคุ้มกันอย่างแน่นหนาขึ้นบันไดด้านข้างของอาคารกองปราบปราม ซึ่ง จ.ส.อ.ชาคริตไม่พูดใดๆ กับผู้สื่อข่าวทั้งสิ้น และระหว่างนั้นตำรวจคอมมานโดพยายามกันไม่ให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ

ขณะที่ทางด้าน พ.ต.อ.ประพนธ์ แกลโกศล รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 (รอง ผบก.น.9) พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนอีกจำนวนหนึ่งไปที่เรือนจำทหารของมณฑลทหารบกที่ 11 จังหวัดนครปฐม เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ร.ท.ธวัชชัย กลิ่นชะนะ พ.ท.มนัส สุขประเสริฐ และ พ.อ.สุรพล สุประดิษฐ์ ผู้ต้องหาทั้ง 3 ที่ถูกควบคุมตัวไว้ในเรือนจำดังกล่าว เนื่องจากพนักงานสอบสวนต้องการให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนยืนยันคำให้การเป็นครั้งสุดท้าย แม้ว่าจะให้การปฏิเสธมาตลอด

@ สงสัยรถนิสสันขนอาวุธสวมทะเบียน

สำหรับการสืบสวนหารถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน รุ่นฟรอนเทียร์ สีบรอนซ์ ทะเบียนตรากงจักร ตามที่ จ.ส.อ.ชาคริตได้ให้การไว้ว่าเป็นรถยนต์อีกคันที่ใช้บรรทุกอาวุธร่วมขบวนการลอบสังหารครั้งนี้ด้วยนั้น มีรายงานว่าชุดสืบสวนที่ติดตามรถยนต์คันดังกล่าวชุดแรกไปตรวจสอบที่บ้านพักหลังหนึ่งในเขต อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เบื้องต้นพบว่าเป็นบ้านเดี่ยว ตั้งอยู่กลางทุ่ง ซึ่งกำลังที่ส่งไปเฝ้าจุดได้รายงานเข้ามาว่าไม่มีคนอยู่ในบ้าน และก็ไม่พบความเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้สอบถามจากชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงทราบว่าเคยเห็นรถยนต์คันดังกล่าวจริง แต่ก็ไม่เห็นมาหลายวันแล้วตั้งแต่เกิดคดีนี้ขึ้น ส่วนกำลังอีกชุดหนึ่งที่ไปตรวจสอบที่บ้านพักในค่ายทหารแห่งหนึ่งในเขตกรุงเทพฯก็ไม่พบ เบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเป็นรถยนต์ที่ถูกนำมาใช้สวมทะเบียนของราชการ เนื่องจากตรวจสอบแล้วทราบว่าในกองทัพไม่มีการนำรถยนต์รุ่นและสีดังกล่าวเข้ามาใช้แต่อย่างใด คาดว่าน่าจะเป็นในลักษณะเดียวกันกับรถยนต์ของ จ.ส.อ.ชาคริต ที่มีการยืมรถของกลางในคดีของสำนักงาน ป.ป.ส. เข้ามาใช้ในงานราชการลับก็เป็นได้

@ หาพยานยัน 2 จ่า"อ.-ร."ร่วมทีมบึ้ม

ส่วนความเคลื่อนไหวการติดตาม 2 ทหารที่ จ.ส.อ.ชาคริตซัดทอดเป็นมือประกอบระเบิด เบื้องต้นมีรายงานว่าเป็นทหารระดับ "จ่า" หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จ.ลพบุรี ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว สงสัยเป็น "จ่า อ. และ จ่า ร." แต่เนื่องจากรายละเอียดทั้งหมดเป็นแต่เพียงคำให้การซัดทอด จึงเป็นเรื่องยากที่ผู้ต้องสงสัยจะยอมรับสารภาพได้โดยง่าย ทางพนักงานสอบสวนอยู่ในระหว่างเสาะหาพยานหลักฐานมาเพิ่มเติม เพื่อยืนยันคำให้การดังกล่าว

@ นำรถประกอบระเบิดย่อส่วนทดสอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รองผู้บังคับการหัวหน้าศูนย์สืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ท.กำธร อุ่ยเจริญ สว.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษกองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมกำลังชุดพนักงานสอบสวนและศูนย์ข้อมูลกองปราบปราม ประสานไปยังหัวหน้าหน่วยทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อขอทดสอบระเบิดจำลองย่อส่วนขนาด 1 ต่อ 4 แบบเดียวกับที่คนร้ายใช้ในรถแดวูซุกระเบิดคันก่อเหตุที่ยึดได้ขณะ ร.ท.ธวัชชัย 1 ในผู้ต้องหากำลังขับบริเวณเชิงสะพานกรุงธน โดยใช้รถยนต์จริงเป็นตัวทดสอบ และมีอุปกรณ์ระเบิดประกอบด้วยระเบิดซีโฟร์ 0.8 ปอนด์ ระเบิดทีเอ็นที 2 ปอนด์ สารเอ็นโฟร์ซึ่งมีส่วนประกอบของสารยูเรียผสมน้ำมันดีเซล 16.8 กก. ฝักแคชนิดเอ็ม 7 เชื้อปะทุไฟฟ้าทางทหารชนิดเอ็ม 6 กระสอบทราย

เมื่อเดินทางไปถึงบริเวณที่โล่งภายในค่าย ซึ่งมีการจัดหารถเก๋งเก่าคันหนึ่งเตรียมไว้แล้ว พ.ต.ท.กำธรได้นำส่วนประกอบระเบิดย่อส่วนประกอบใส่ไว้ภายในรถ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ โดยมีวงจรจุดระเบิดแบบคลื่นสั้นของรถบังคับติดไว้บริเวณใต้ที่นั่งคนขับเหมือนกับที่พบในรถแดวู หลังจากนั้นชุดทดสอบทั้งหมด ได้กันเจ้าหน้าที่ให้ห่างออกไปจากรถประมาณ 300 เมตร ส่วนผู้จุดระเบิดคือ พ.ต.ท.กำธรยืนอยู่ห่างจากรถที่ใช้ทดสอบประมาณ 150 เมตร

@ ผลรถแหลก-ถ่ายวิดีโอเก็บเป็นหลักฐาน

หลังจากการเตรียมการเสร็จเรียบร้อย พ.ต.ท.กำธรได้กดระเบิดจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ตัวถังรถเก่าที่นำมาทดสอบถูกฉีกกระจายออกเป็นชิ้นๆ เหลือเพียงคัดซีรถและเครื่องยังติดกับตัวถังอยู่ จากการตรวจสอบแรงระเบิดมีระยะทำลายประมาณ 100 เมตร จากการคำนวณถ้าใช้ระเบิดจำนวนตามที่คนร้ายใช้ รัศมีการทำลายน่าจะมีระยะทำการประมาณ 500 เมตร แรงระเบิดจะมีอานุภาพทำลายทั้งจากแรงอัด เนื่องจากประกอบด้วยสารเอ็นโฟร์ ซึ่งเป็นระเบิดความดันต่ำ และสารซีโฟร์และทีเอ็นที ซึ่งเป็นระเบิดความดันสูง ซึ่งมีอำนาจการฉีกทำลายรุนแรง ทำให้วัตถุที่อยู่ในรัศมีฉีกขาด กลายเป็นสะเก็ดระเบิดจำนวนมหาศาล เมื่ออยู่ในที่ชุมชนหรือที่สาธารณะเช่นเชิงสะพานบางพลัดจุดเกิดเหตุ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการดำเนินการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการถ่ายภาพวิดีโอ ภาพนิ่ง ไว้ตลอดการทดลอง เพื่อประกอบเข้าสำนวนการสอบสวน เพื่อให้หลักฐานแน่นหนาพอจะเอาผิดผู้ต้องหาทั้ง 5 คนด้วย

@ "พัลลภ"โบ้ยเรื่อง กอ.รมน.ให้ถาม"แม้ว"

วันเดียวกัน พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรอง ผอ.กอ.รมน.ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ "มติชน" เกี่ยวกับรายละเอียดคำรับสารภาพของ จ.ส.อ.ชาคริต หรือ จ่ายักษ์ ที่เชื่อโยงประเด็นต่างๆมากมายว่า ยอมรับว่าเรื่องนี้ทำให้วุ่นอยู่ แต่ขอยืนยันว่าไม่รู้เรื่องด้วยเลย โดยเฉพาะที่มีความพยายามโยงเข้าไปใน กอ.รมน.นั้น

"ถ้าอยากรู้รายละเอียดและความจริงทั้งหมดใน กอ.รมน. คงต้องไปถามเอากับพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะมีตำแหน่งเป็น ผอ.กอ.รมน. เท่ากับเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของ กอ.รมน. ส่วนผมเป็นเพียงรอง ผอ.กอ.รมน. มีหน้าที่บริหารงาน กอ.รมน.ตามนโยบายของนายกฯเท่านั้น" พล.อ.พัลลภกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่รายละเอียดคำรับสารภาพของ จ.ส.อ.ชาคริตลำดับเป็นเรื่องมีผู้เกี่ยวข้องที่น่าสนใจและเชื่อมโยงถึง พล.อ."พ."อาจอยู่เบื้องหลัง พล.อ.พัลลภหัวเราะก่อนกล่าวว่า ดูคำรับสารภาพของ จ.ส.อ.ชาคริตแล้ว เหมือนหนังแต่คิดว่าไปดูหนังแขกยังสนุกกว่าเสียอีก

@ ซัด"จ่ายักษ์"แค่พลขับ"ติงต๊อง"

เมื่อถามว่า จ.ส.อ.ชาคริตระบุส่วนประกอบหนึ่งของแผนลอบสังหารถึงขั้นจะมีการปฏิวัติ พล.อ.พัลลภกล่าวว่า ไม่มี กอ.รมน.มีแต่ฝ่ายเสนาธิการที่ทำงานด้านนโยบาย คอยทำหน้าที่ประสานงานเรื่องที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ตามที่ ผอ.กอ.รมน.คือนายกรัฐมนตรีมอบหมาย ไม่ได้คุมกำลังพลที่ติดอาวุธ ดังนั้น กอ.รมน.จะไปเอากำลังพลที่ไหนมาปฏิวัติ เมื่อถามว่ารู้สึกหนักใจหรือไม่ที่ถูกเชื่อมโยงด้วย พล.อ.พัลลภกล่าวว่า ไม่หนักใจ รู้สึกเฉยๆ อยากรู้ต้องไปถาม พ.ต.ท.ทักษิณ

@ ลั่นใครจะบ้าเขียนคำแถลงการณ์ปฏิวัติ

เมื่อถามถึงกระแสข่าวปฏิวัติตามที่ตำรวจอ้าง พล.อ.พัลลภกล่าวว่า "ใครจะบ้าไปเขียนคำแถลงการณ์อะไรไว้ แล้วเรื่องปฏิวัติก็ไม่เคยคิด ผมจะเอากำลังทหารที่ไหนไปปฏิวัติ มีแต่ทหารลูกน้องหน้าห้องฝ่ายอำนวยการเท่านั้น ไม่มีกำลังอะไรเป็นกองทัพเลย ตอนนี้ผมอายุ 71 ปีแล้ว อยากใช้ชีวิตสบายๆ พักผ่อนตอนแก่ ผมจะไปปฏิวัติไปทำไม ผมจะต้องเอาตัวเข้าเสี่ยงไปแลกขนาดนั้นเลยหรือ แล้วผมจะเอากำลังที่ไหน แค่คิดก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว"

@ "จ่ายักษ์"สารภาพ ซัดทอดยกทีม อ้างล้ม"ระบอบทักษิณ"

"จ.ส.อ.ชาคริตรับสารภาพว่า ได้ร่วมกระทำผิดจริง โดยให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และมีความเชื่อมโยงในประเด็นต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวน จิ๊กซอว์ใกล้ครบแล้ว แต่คงเปิดเผยไม่ได้" พล.ต.ท.มนตรีกล่าว

@ ซัดนายใหญ่สั่ง-ทำลายระบอบทักษิณ

ทั้งนี้ จ่ายักษ์ได้ให้การรับสารภาพอ้างว่า ได้ร่วมกับ ร.ท.ธวัชชัย พ.ท.มนัส พ.อ.สุรพล หรือ เสธ.ตี๋ และ พล.ต.ไพโรจน์ กับพวกอีกอย่างน้อย 8 คน เตรียมการที่จะลอบสังหารนายกรัฐมนตรีจริง โดยมีการวางแผนตั้งแต่เมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนา ยนที่ผ่านมา ซึ่ง เสธ.ตี๋ ที่เป็นผู้บังคับบัญชาของตนได้เรียกให้ไปพบที่สำนักงาน กอ.รมน. สวนรื่นฤดี พร้อมกับบอกว่า "นายใหญ่" สั่งการให้ฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อ "ทำลายระบอบทักษิณ" เนื่องจากที่ผ่านมาทำให้ประเทศชาติเสียหาย ซึ่งได้ยินดีปฏิบัติตาม เนื่องจากเป็นคำสั่งของนายใหญ่ ซึ่งก็คือ "พล.อ. พ." โดย เสธ.ตี๋ ยังอ้างด้วยว่าการลงมือครั้งนี้เป็นการรับงานผ่านมาจาก พล.ต. "ส" และ พล.ต. "ต" โดยมีผู้ร่วมวางแผนการลอบสังหารอีกคนหนึ่งที่สำคัญคือ พ.อ. "บ" หรือ ทั้งหมดเป็นทหารสังกัด กอ.รมน.

@ อ้างเพื่อรักษาชีวิตคนอีก 60 กว่าล้าน

จ.ส.อ.ชาคริตให้การอ้างด้วยว่า ก่อนที่จะมีการลงมือนั้นร่วมกับ พ.อ.สุรพล หรือ เสธ.ตี๋ หารือกันถึงอาวุธที่จะใช้ในการลอบสังหาร ซึ่งได้สอบถาม เสธ.ตี๋ ว่าจะให้ใช้อาวุธปืนยิงใช่หรือไม่ แต่ เสธ.ตี๋ ได้บอกกลับว่า "นายใหญ่" ให้ใช้ระเบิด ซึ่งขณะนั้น พ.ท.มนัส ได้รายงานให้ทราบว่ามีการจับระเบิดที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 20 กิโลกรัม เสธ.ตี๋ จึงบอกว่าจะใช้มากกว่านี้อีกเท่าหนึ่ง เพื่อจะได้ประสบผลสำเร็จ แต่ได้พยายามทักท้วงโดยบอกว่า เพราะการใช้ระเบิดมากขนาดนั้นจะทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก การโต้แย้งของตนทำให้ เสธ.ตี๋ โมโหพร้อมกับยืนยันว่าจะให้ใช้ระเบิดตามคำสั่งของ "นายใหญ่" โดยบอกว่าคนตายเป็นร้อย แต่ต้องรักษาชีวิตคนอีก 60 กว่าล้านคน เพราะต้องกำจัด "ระบอบทักษิณ" ให้สิ้นซากให้ได้

@ เตรียมแผนใหม่ใช้อาร์พีจีสังหาร

จ.ส.อ.ชาคริตให้การต่อว่า หลังจากตำรวจเข้าจับกุม ร.ท.ธวัชชัยได้ในที่เกิดเหตุจนเป็นข่าวใหญ่โต ทำให้ เสธ.ตี๋เรียกตนและ พ.ท.มนัสเข้าไปต่อว่าดุด่าอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ พ.ท.มนัส ซึ่ง เสธ.ตี๋มักจะเรียกว่า "ไอ้แก่" นั้น ได้ถูกต่อว่าอย่างมากฐานที่ทำงานไม่สำเร็จและยังถูกจับกุมได้ จึงสั่งการให้ พ.ท.มนัสแก้ตัวและลงมือใหม่ โดยเรียกว่าเป็นแผนการครั้งที่ 2 ซึ่ง เสธ.ตี๋หารือกับ พ.ท.มนัสว่าน่าจะใช้ "อินทผลัม" ตามภาษาทางการทหาร หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าจรวดอาร์พีจีหรือไม่ก็ใช้ เอ็ม 79 ที่ทหารศูนย์สงครามพิเศษ จ.ลพบุรี ใช้กัน เพื่อลอบสังหารอีกครั้ง ซึ่ง เสธ.ตี๋ยังบอกด้วยว่า หากปฏิบัติการครั้งนี้ไม่สำเร็จจะเลือกใช้วิธีสุดท้ายคือการปฏิวัติ ตามที่ "นายใหญ่" ได้คิดไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ลงมือทำ ทั้งหมดก็ถูกตำรวจออกหมายเรียกให้มาทราบข้อกล่าวหาก่อนแล้ว

@ มีหลักฐานโอนเงิน-ทำแผน 10 ก.ย.

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า เบื้องต้นนอกจากคำรับสารภาพของจ่ายักษ์แล้วพนักงานสอบสวนยังได้หลักฐานเป็นการโอนเงินค่าดำเนินการ ซึ่งโยงให้เห็นความเกี่ยวพันในขบวนการด้วย และในวันเสาร์ที่ 10 กันยายน จะนำตัว จ.ส.อ.ชาคริตไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามขั้นตอนตั้งแต่เริ่มวางแผนจนถึงการลงมือปฏิบัติการอย่างละเอียด โดยจะมีการวางกำลังคุ้มกันอย่างแน่นหนา คาดว่าอาจจะใช้กำลังตำรวจคอมมานโดพร้อมอาวุธไม่ต่ำกว่า 100 นาย ส่วนผู้ต้องหารายอื่นที่ปฏิเสธจะไม่นำตัวไป และเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะให้การอย่างใดก็ได้

@ พัลลภยันไม่รู้เรื่องลอบสังหาร

พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรอง ผอ.กอ.รมน. กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าว จ.ส.อ.ชาคริตให้การรับสารภาพและซัดทอดถึงว่า ไม่เป็นไร ขอยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่รู้เรื่อง ทั้งนี้ ต้องปล่อยให้เป็นไปตามรูปคดีและขั้นตอนของกฎหมาย ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ จ.ส.อ.ชาคริตพาดพิง อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดถึงเรื่องนี้ ยังไม่อยากจะพูดขอติดตามรายละเอียดก่อน เพราะไม่รู้เรื่องกับการกระทำทั้งหมด

ลำดับเหตุการณ์ก่อนรัฐประหาร 19ก.ย.49 ถึง 1 ต.ค.49 พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คลิกที่นี่...