@ เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00
@ 52... นี่จึงเป็นนายกรัฐมนตรีที่ผมอยากได้ครับ
@ 82 ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk
@ นายกฯที่ฝ่ายต่อต้านกล่าวหาว่าโง่ในสายตาผม
@ 53... ผมคงต้องยอมรับเสียที ผมนี่แหละครับ รับจ้างโพสท์
@ หนี้ 1.14 ล้านล้าน เอกลักษณ์ ประชาธิปัตย์ หงุดหงิด แต่ไม่แก้
@ เข้าครัว...ทำกับข้าวคลายเครียด!! ผมทำได้ คุณก็ทำได้ครับ
@ 54... "นายกฯปู" สวมชุดนักบินเหินฟ้าชมการใช้กำลังทางอากาศ
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...
"นายกฯปู"เอาใจคนเมืองคอน ใจป้ำ อนุมัติสร้างทางเชื่อมสะพานทันที 53 ล้าน หลังรัฐบาล"มาร์ค"ไม่ดูแล
By: มติชนออนไลน์
เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2555 ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ภายหลังเดินทางเยี่ยมชาว อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ว่า
หลังจากเยี่ยมชาวใต้ พบว่าที่สะพานคลองกลาย มีสภาพหักพังจากน้ำท่วมตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว และไม่ได้มีการสร้างซึ่งชาวบ้านได้ร้องขอมา และตลอดเวลาผู้ว่าฯจังหวัดและกองทัพก็ได้ทำสะพานแบริ่งให้เป็นการชั่วคราว แต่เห็นจากสภาพพื้นที่แล้ว ขาดการจราจรในส่วนของสะพาน ก็ได้สั่งการเห็นชอบให้นำเสนอเข้าคณะกรรมการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ อุทกภัย (กฟย.) ที่มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ เป็นประธาน เพื่อทำเรื่องขออนุมัติให้เรียบร้อย เพื่อแบ่งเป็น 2 ช่วงด้วยกัน คือสะพานคลองกลาย และสะพานปากลง งบประมาณรวม 53 ล้านบาท
นอกจากนั้นแล้วยังมีพื้นที่ริมตลิ่งที่ประชาชนอพยพไปอยู่หลังเกิดอุทกภัย ซึ่งให้นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในการจัดหาพื้นที่ชั่วคราวให้ประชาชนแถบนั้นโดยทันทีจะได้มีที่อยู่ที่ปลอดภัยไม่ต้องไปถูกน้ำกระทบ
ทั้งนี้ยังมีส่วนของการซ่อมสะพานอื่นๆ ให้ใช้งบประมาณจังหวัดอีก 5 ล้านบาท ทั้งนี้ยืนยันว่าผู้ว่าฯจังหวัดมีงบสำรองฉุกเฉินที่รัฐบาลได้ให้จังหวัดไว้ ทั้ง 9 จังหวัดตั้งแต่วันแรกที่มีการประกาศภัยพิบัติฉุกเฉินอย่างรุนแรง และผู้ว่าฯก็ได้ใช้งบส่วนนี้ดูแลประชาชน
อย่างไรก็ตาม การสำรวจครั้งนี้ได้ติดตามปัญหาในพื้นที่ภาคใต้เพื่อนำไปปรับปรุงการทำงานในส่วนของคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางแนวทางบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน (กยน.) ด้วย
เมื่อถามว่าการเยียวยาแตกต่างจากน้ำท่วมทั่วไปหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่แตกต่าง หลักเกณฑ์คือแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทุกจังหวัดเหมือนกันหมด คือ บ้านท่วมฉับพลันและท่วมขังเกิน 7 วันจ่ายชดเชย 5,000 บาทต่อครัวเรือน และซ่อมบ้านสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท
Comment...
ปัดโธ่...คุณน่ะไม่้รู้อารายเลย...ที่แมงสาบทำสะพานชั่วคราว...เพราะรู้ว่าน้ำมาทุกปี...ทำสะพานไม่ถาวรมันจะได้พังบ่อยๆ พังบ่อยๆ...ก็ซ่อมบ่อยๆ....ซ่อมบ่อยๆก็รับบ่อยๆ อิ่มอร่อย...ชิมิชิมิ
เพื่อไทยนายกปูฯ รู้ทัน...เลยเอาสะพานถาวรไปเลย ไม่ต้องรอซ่อมทุกปี...
ขอขอบคุณภาพประกอบข่าวจาก คุณ"อบอริจิ้น" และ คุณ"น่ารัก ก็ไม่บอก" เว็บประชาทอล์ค
"นายกปูฯ"อนุมัติ100ล้านช่วยคนนครศรีฯ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 ม.ค.2555 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางลงไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยในต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.นครศรีธรรมราช พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.ภ.8 พร้อมข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนจำนวนมากให้การต้อนรับ โดยคณะของน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสะพานคลองกลาย ระหว่างหมู่ 5 กับหมู่ 6 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ ซึ่งถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนพังเสียหายมาตั้งแต่ช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.54 โดยยังไม่มีการก่อสร้างหรือซ่อมแซม มีเพียงการสร้างสะพานแบริ่งข้ามลำคลองชั่วคราว แต่เหตุการณ์ฝนตกน้ำท่วมในครั้งนี้สะพานแบริ่งถูกกระแสน้ำพัดถล่มจนขาด ทำให้พื้นที่ถูกตัดขาดไม่สามารถใช้สัญจรไปมาได้ ในจุดดังกล่าวทางศูนย์เฝ้าระวังและเตือนภัยพิบัติกรุงชิง ได้ร่วมกันทำสะพานเชือก พร้อมบันไดลิงชักรอกสำหรับสัญจรไปมาชั่วคราว และทางราชการเพิ่งติดตั้งสะพานแบริ่งใหม่แล้วเสร็จใช้การได้เมื่อช่วงวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา
หลังจากนั้นคณะของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางไปยังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหมู่ 6 ต.กรุงชิง เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนผู้ประสบภัย โดยมีนายทรงพล สวาสดิ์ธรรม รองผวจ.นครศรีธรรมราช นายปรีชา คุ้มวงศ์ นายอำเภอนบพิตำ หัวหน้าสวนราชการและประชาชนกว่า 5,000 คนมาคอยต้อนรับ โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้รายงานสถานการณ์อุทกภัยในภาพรวมของภาคใต้ทั้งหมด ในขณะที่นายวิโรจน์รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในนครศรีธรรมราช และในส่วนของ อ.นบพิตำ
นายวิโรจน์กล่าวว่าพื้นที่นครศรีธรรมราชได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉิน 15 อำเภอ มีประชาชนกว่า 110,000 ครัวเรือน กว่า 300,000 คนได้รับความเดือดร้อน สิ่งสาธารณูปโภคต่างเสียหายเป็นจำนวนมาก รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 120 ล้านบาท โดยเฉพาะ อ.นบพิตำ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งในส่วนของ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ ทางจังหวัดอยากจะขอความกรุณานายกรัฐมนตรีอนุมัติโครงการก่อสร้างสะพาน 2 แห่ง ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักระหว่างหมู่ 5-6 ต.กรุงชิง 1 แห่ง มูลค่า 27 ล้านบาท และหมู่ 6 อีก 1 แห่งมูลค่า 26 ล้านบาท รวม 53 ล้านบาท
นอกจากนี้ในส่วนของ ต.แหลมตะลุมพุก ที่ขอใช้พื้นที่ของกรมอุทยาน ฯ จำนวน 133 ไร่ 2 งาน 70 ตารางวา เพื่อให้ประชาชนใน ต.แหลมตะลุมพุก 569 ครอบครัวเข้าไปอยู่อาศัย รวมทั้งการสร้างแนวกันคลื่นแหลมตะลุมพุก และแนวกันคืนแนวถนนเลียบชายทะเลปากพนัง-หัวไทร อีก 4 แห่ง เป็นในส่วนของ อ.ปากพนัง 1 แห่งและพื้นที่ อ.หัวไทร 3 แห่ง รวมงบประมาณเกือบ 15 ล้านบาท รวมทั้งโครงการซ่อมสร้างถนนอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวกับประชาชนว่า ตนติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้อย่างใกล้ชิด แต่ติดภารกิจไม่สามารถลงมาในพื้นที่ได้ในขณะนั้น แม้ตัวจะไม่ได้มาแต่ตนอยากจะพูดว่า "จิตใจตนหวัง เหวิดคนใต้จังหู” ซึ่ง ในส่วนของการร้องขอของประชาชนผ่านทางผวจ.นครศรีธรรมราช ตนขอยืนยันว่าจะอนุมัติงบประมาณให้ดำเนินการทันที นอกจากนี้ตนยังมีทีมคณะกรรมการที่ลงพื้นที่จริงสำรวจความเสียหายและแนวทางการแก้ไขปัญหาของจังหวัดต่าง ๆ ในภาคใต้มาตลอด เพราะนอกจากการแก้ไขปัญหาระยะสั้น ตนคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องแก้ไขปัญหาระยะยาวในเรื่องการบริการจัดการน้ำเป็นระบบครบวงจร ในส่วนของสะพาน 2 ของ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ รวม 53 ล้านบาทนั้น ทั้งสองจุดไดรับความเสียหายตั้งแต่น้ำท่วมเมื่อเดือนมี.ค.-เม.ย.54 ซึ่งพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้เป็นรัฐบาล เวลาผ่านมาจนถึงบัดนี้ยังไม่ได้ซ่อมแซมหรือก่อสร้างให้สะพานทั้ง 2 แห่งใช้การได้ ดังนั้นรัฐบาลนี้จะดูแลงบประมาณก่อสร้างสะพานทั้ง 2 แห่ง รวม 53 ล้านบา เป็นกรณีพิเศษและจะเร่งดำเนินการทันที
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดตั้งระบบเตือนภัยพิบัติ ในที่ยังไม่แล้วเสร็จ สำหรับ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ เป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ในครั้งนี้ตนได้รัยรายงานว่าภาคประชาชน คือเครือข่ายศูนย์เฝ้าระวังภัยพิบัติและช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรุงชิง มีส่วนช่วยเหลือเตือนภัยอย่างดีเยี่ยม ตนอยากให้ทุกตำบล ทุกอำเภอนำไปเป็นแบบอย่าง เพราะต่อไปภาคประชาชนจะเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประชาชนที่มาต้อนรับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้นำเอาผลไม้ตามฤดูกาล ประกอบด้วย เงาะ ทะเรียน มังคุด ลางสาด ลองกอง รวมทั้งสะตอ มาฝากนายกฯ เป็นจำนวนมาก เมื่อรวมกันแล้วต้องใช้รถกระบะบรรทุกของฝาก นอกจากนี้ได้มีกลุ่มสตรีที่มารอต้อนรับนำทุเรียนขนาดใหญ่ 3 ผล มัดรวมกันมาให้นายกฯโดยเขียนข้อความติดว่าขอฝากให้น้องไปป์ บุตรชายของนายกรัฐมนตรีเป็นของขวัญปีใหม่และของขวัญวันเด็กที่จะถึงนี้ จนกระทั่งเวลา 15.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงเดินทางกลับ แต่ขณะที่กำลังเดินไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์มีประชาชนจำนวนมากแห่เดิมมาขอจับไม้จับมือและขอถ่ายรูป โดยเฉพาะผู้หญิงสูงวัยคนหนึ่งได้วิ่งเข้ามาโอบกอดน.ส.ยิ่งลักษณ์ จนแน่น พร้อมกับกล่าวว่า รักนายกฯมากที่สุด ขอให้เป็นนายกรัฐมนตรีนานๆ และขอให้นายกรัฐมนตรีกลับมาเยี่ยมชาวนครศรีธรรมราชบ่อย ทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถึงกับยิ้มแก้มปริ พร้อมรับปากว่าจะมาเยี่ยมบ่อยๆ ก่อนขอตัวเดินทางไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์เดินทางกลับกรุงเทพฯ