@ ผมเคยคิดว่า ปชป.แม้จะเป็นรัฐบาลไม่ได้ แต่ก็เป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ ดังนั้นผมจึงคิดว่า...
@ เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00... ตอนที่ 8...กลับไปทำงาน 2 job ใหม่ กลับเมืองไทยครั้งแรกหลังจากที่จากมาแล้วเกือบสิบปี เริ่มค้าขาย ชีวิตหักเหอีกครั้ง
@ "ดิฉันวินิจฉัยแล้ว ไม่มีหรอกค่ะโรคขี้ข้าทักษิณ มีแต่โรคอยากกลับมาเป็นนายกฯ โดยไม่ต้องชนะเลือกตั้งทักษิณ"
@ สาเหตุที่มึงป่วย...เพราะ...โง่...
@ ข้อเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเพื่อยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญและจัดตั้งคณะตุลาการพิทักษ์ระบอบรัฐธรรมนูญ
@ นกแก้วตัวนั้น?
@ มีคนเขาบอกว่า ผมถูกหลอก
@ สามก๊กภาคพิสดาร (การเมือง)
@ แม่หมาขี้เรื้อนตัวนั้น... ใครอ่านแล้วต่อมน้ำตาไม่แตก E-mail มารับรางวัล
@ หัวเชือกวัวชน...
@ แชมป์’กินไม่ได้...
@ คนไทยบางกลุ่มใจแทบสลาย เมื่อทักษิณบินอเมริกา...
@ Clipยกต่อยก..."แก้ว"โดนปล้น แต่"แก้ว"คือ"ฮีโร่"ของคนไทย
@ เจอของจริงแกล้งเฉไฉ เฮ้อ!! แถแบบนี้...ผมบายดีกว่า กลัวติดเชื้อ"โรคกลัวความจริง"
@ กะเทาะหัวใจ "ยิ่งลักษณ์" 1 ขวบปีกับบทบาทผู้นำประเทศ
@ ไป ๆ มา ๆ ชักจะออกอาการ "สุนัขจนตรอก"
@ หนึ่งปี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ "ทุกข์ประชาชนหรือฝ่ายค้าน"
@ 1ปี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้คืนความสุขกับผมมากมายเลยครับ
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...
โครงการแจกแท็บเล็ตให้เด็ก ป.1 ของนายกฯปู สร้างอัจฉริยะสุดคุ้ม
By: ลูกชาวนาไทย
เมื่อวาน วันที่ 16 สิงหาคม 2555 ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมโรงเรียนที่แจกแท็บเล็ตให้เด็ก ป. 1 ที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้มีเด็ก ป.1 จำนวน 25 คน และได้รับแท็บเล็ตมา 25 เครื่อง ขนาดของแท็บเล็ตที่แจก ก็ประมาณเท่ากับ Sumsung Galaxy tab นั่นแหละครับ ทีแรกผมนึกว่าขนาดเท่ากับ Ipad แต่เมื่อดูแล้ว เด็ก ป.1 ถือขนาดนี้ก็เหมาะมือดี ข้อมูลที่เขาให้มาคือ ปีนี้ รัฐบาลนายกฯปู ซื้อมา 800,000 เครื่อง ราคาเครื่องละ 2,400 บาท คงหมดไปประมาณ 2,000 ล้านบาท
ราคาเครื่อง 2,400 บาทนี่ ก็แพงกว่าตอนที่ อภิสิทธิ์เป็นนายกฯ แล้วแจกเงินให้ผู้ประกันตนคนละ 2,000 บาท แบบให้เปล่า ถึง 8 ล้านคน หมดเงินไปกว่า 16,000 ล้านบาท โดยอ้างว่าเป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้คนจับจ่ายใช้สอย ซึ่งก็พอฟังได้ครับ แต่วิธีการนั้นไร้สมองมากไปหน่อย โครงการ One Tablet per Child นี้ ถือว่าเป็นการลงทุนทางด้านการศึกษาสำหรับเด็กในอนาคต เสียเงินปีละประมาณ 2,000 ล้านบาท ผมถือว่าคุ้ม สุดคุ้ม ยิ่งกว่าโครงการไร้สมองแจกเงิน 2,000 บาทมากมาย
สีหน้าเด็ก มันคือคำตอบ ไม่เสแสร้ง
เมื่อเข้าไปถึงห้องเรียนเด็ก ป.1 ซึ่งมีหลายชาติพันธุ์ คือ พม่า มอญ และไทย ถือว่าเป็นโรงเรียนอินเตอร์ ได้เช่นกัน ผมก็เห็นหลานๆตัวน้อย กำลังเล่นแท็บเล็ตกันอย่างสนุกสนานน่าสนใจ เพราะแท็บเล็ตที่แจกให้ เขาใส่โปรแกรมเพื่อการศึกษาเอาไว้มากมาย เช่น โปรแกรมสอนคณิตศาสตร์ให้เด็ก ป.1 โปรแกรมสอนภาษาอังกฤษ มีศัพท์ง่ายๆ เช่น คำว่า OX ก็มีภาพวัวให้ เอามือจิ้มก็ออกเสียงให้เด็กฟังอย่างสนุกสนาน
เด็กๆขนาดนี้นั้น มีจินตนาการไร้ขอบเขต ไม่ต้องห่วงว่าเด็กจะใช้เป็นหรือไม่ ผมเห็นน้องพริม ลูกสาวแม่ปังคุง ตอนอายุ 4 ขวบ ก็ใช้ Ipad ได้คล่องแล้ว มีโปรแกรม เกม ที่ช่วยในการศึกษา สร้างจินตนาการให้เด็กมากมาย ดังนั้นประโยชน์ ก็คงไม่ต้องพรรณนามาก เพราะ Tablet นั้นไม่ใช่แค่หนังสือเท่านั้น มันคือ ห้องสมุดขนาดใหญ่ ที่เป็นแบบ Interactive เหมือนปากกาวาดรูป เครื่องมือสื่อสาร กล้องถ่ายรูป อะไรมากมาย ใครใช้สมาร์ทโฟน ไอแพด ก็ไม่ต้องถามถึงประโยชน์ของมัน มีมากมายก่ายกอง
ปัญหาอยู่ที่ว่า "เรามีเงินซื้อให้เด็กหรือไม่" หากเป็นลูกเรา เมื่อมีเงินซื้อ ส่วนใหญ่ก็จะซื้อให้ทันที ไม่ต้องถามว่าควรหรือไม่ด้วยซ้ำ ส่วนข้อโจมตีว่า ทำให้เด็กสมาธิสั้นบ้าง อะไรบ้าง ผมว่าเป็นข้อโจมตีที่ไร้สาระ เพราะหากคิดแบบนั้น ก็ทุบโทรทัศน์ทุกบ้านทิ้งไปดีกว่า มีประโยชน์น้อยกว่า Tablet อีก
แจกให้ ป. 1 ไวไปหรือไม่ เด็กยังไม่พร้อม?????
ผมว่าเด็กพร้อมตั้งแต่อนุบาลแล้วครับ เพราะเห็นลูกคนชั้นกลางซื้อให้ตั้งแต่อนุบาลแล้ว แต่เด็กชนบท พ่อแม่เขาไม่มีเงินซื้อเท่านั้นเองรัฐบาลมาแจกให้ ป. 1 ถือว่าสายเกินไปแล้วด้วยซ้ำไป แล้วอีกอย่าง เด็กรุ่นนี้ ในอนาคตอีกสิบปีข้างหน้าก็ต้องใช้คอมพิวเตอร์ต่างๆ ไม่เตรียมตัวให้เขาพร้อมวันนี้จะเตรียมตัววันไหน
สำหรับผลประโยชน์โครงการนั้น ผมว่า หากโครงการนี้ได้ "อัจฉริยะ" มาหนึ่งคน ก็ถือว่าคุ้มแล้ว เพราะ อัจฉริยะคนเดียวก็สามารถเปลี่ยนโลกนี้แบบสิ้นเชิง เหมือนที่เราเห็น ไอแซคนิวต้น ไอสไตน์ และล่าสุดคือ สตีป จอบ คนที่คิด Tablet นี่แหละ
ผมเคยมีข้อมูลว่า สังคมหนึ่งๆนั้นจะมี "อัจฉริยะประมาณ 0.0005%" เมืองไทยมีประชากร 65 ล้าน ก็คงมีอัจฉริยะอยู่ 30,000 คน แต่เพชรนั้นแม้จะมีประกายเจิดจ้า แต่หากอยู่ในตมก็ไม่มีความหมายอะไร อัจฉริยะแม้ไอคิวจะ 180 แต่หากวัยเด็กไร้การศึกษา ไร้การกล่อมเกลา ก็ยากที่จะเปล่งประกาย
เด็กพร้อมตั้งนานแล้ว แต่รัฐบาลเพิ่งมีวิสัยทัศน์ในยุคนายกฯปู นี่เอง รัฐบาลมาร์กแจกเงินกันเปล่า เสียเงินไปตั้ง 16,000 ล้านบาท ไม่เห็นพวกสลิ่มค้านอะไรกันนักกันหนา โครงการแจกแท็บเล็ตเสียเงินแค่ 2,000 ล้านบาท โวยกันนักกันหนา
โรงเรียนที่ผมไปดูมา เขาบอกว่าได้ประชุมกับผู้ปกครองของเด็ก เพื่อต้องการให้ผู้ปกครองช่วยดูแลรักษาด้วย เพราะเขาอนุญาตให้เด็กเอากลับบ้านได้ และโรงเรียนต้องการให้เป็น Tablet ของครอบครัวด้วย เพราะสามารถใช้ร่วมกันได้ ระหว่างสมาชิกอื่นๆในครอบครัว ซึ่งไม่น่าจะใช้ยากอะไร
โรงเรียนเขาก็ติด Wifi ด้วยแล้ว ทำให้การ Online ไม่ใช่ปัญหาอะไร
ต่อไปผมคาดว่าเขาคงติด Wifi ทุกหมู่บ้าน เหมือนที่ ICT นำร่องไปแล้วกว่า 200,000 แห่งในปีนี้ คิดว่าการขยายให้ครบทุกหมู่บ้านนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ต้องใช้เวลานานมากนัก
ผมเชื่อว่าใน 5 ปี ก็คงสมบูรณ์มากกว่านี้ วันนั้นผมว่าเด็กก็ขึ้น ป.5 หรือ ป.6 แล้ว อาจมีเด็กบางคนพัฒนาเขียนโปรแกรมได้เองแล้ว เรื่องพวกนี้บางทีก็ไม่ต้องสอน เพราะมันแพร่หลายไปเอง เหมือนวิธีการเล่นต่างๆในวัยเด็ก เช่นพวกหมากเก็บ เกมต่างๆ สมัยเด็ก ผมสังเกตได้ว่า เกมการเล่นจะเป็นเปลี่ยนไปเรื่อย ไม่รู้มันแพร่มาจากไหน แต่มันก็แพร่ไปทั้งโรงเรียน
เรื่องพวกนี้มันขยายตัวของมันเอง เพราะการเรียนรู้นั้นไม่มีขอบเขต สมัยผมเป็นเด็ก การสื่อสารยังไม่ดี ปากต่อปาก แต่มันก็แพร่ไปได้
สมัยนี้ เด็กเล่น Wifi บางที อาจเปิดคลิป สอนให้ทำอะไรต่างๆ ที่พวกเขาอยากเรียน
และเราก็รู้ว่าคลิปในยูทูป ที่เกี่ยวกับความรู้นั้นมีมากมาย แต่ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ เด็กอยากรู้ก็ต้องฝึกภาษาอังกฤษแกะเอาเอง จนชำนาญไปเอง
เพราะในชีวิตจริง หากเด็กคนไหนสนใจอะไร เขาก็ตามมันจนแทบเรียกว่าบ้า รู้จนได้นั่นแหละ ยิ่งค้นจาก Google หรือ ยูทูปได้ ยิ่งสุดยอด
By: Machanismxs
มุมที่ลูกชาวนามอง แมร่งเชียร์แต่เพื่อไทย ทำไมไม่มองมุมที่มันผลาญชาติมั่ง นโยบายดี แต่เพียงบางส่วน ครูบ้านนอกจะมีซักกี่คนที่จะมีปัญญามาสอนเด็กใช้แท็บเล็ต อีกอย่างต้องหาที่ซ่อมให้เพียงพอ และครูที่จะช่วยสอนให้ได้ลองใช้ได้อย่างเต็มที่
By: ลูกชาวนาไทย
ผลาญตรงไหนอ่ะ ประโยชน์มีอยู่มากมายเห็นๆอยู่ ถ้าจะพูดเรื่องผลาญน่ะ พูดถึงรัฐบาลแมลงสาบดีกว่า ผลาญแมร่งทุกโครงการ แล้วตอนนี้ไอ้สิ่งที่แมร่งผลาญน่ะ กำลังโผล่ออกมาประจานพรรคนี้กันแล้ว
อีกอย่างคุณคิดอย่างไร กับโครงการแจก 2,000 บาท ของ ปชป.สมัยมาร์ค เสียเงินไปตั้ง 16,000 ล้านบาท ไม่มีมรรคผลอะไรให้เห็นอีกเลย แพงกว่าโครงการนี้ 8 เท่า กึ๋นมันต่างกัน ผมก็ต้องชมสิครับ
ผมถามครูผึ้งที่สอนห้อง ป.1 ที่เขาแจกแท็บเล็ต ทางสำนักงานประถมศึกษาที่เป็นเจ้าของโครงการ เขาได้เปิดอบรมไปแล้วครับ ครูไม่ได้โง่อย่างที่คุณคิดหรอกครับ แท็บเล็ต ก็เหมือน สมาร์ทโฟน นั่นแหละ อบรมแป๊บเดียวก็ใช้ได้ ขนาดเด็กสี่ขวบ ลูกสาวเพื่อนผมยังใช้เป็นเลย
สตีป จ๊อบ เขาคิดเทคโนโลยีนี้ ให้คนมีมือ มีสมองนิดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว ไม่ใช่จะต้องเรียนจนจบปริญญาเอกถึงจะใช้ได้
ผมว่าเรื่องซ่อมไม่ใช่สาระสำคัญหรอกครับ ก็เหมือนกับ IPAD หรือซัมซุงทั้งหลาย ที่ขายในตลาดเวลานี้ ซ่อมไม่ได้ง่ายๆหรอกครับ หากวงจรเสียก็ต้องทิ้งเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีทางซ่อมกลับมาได้ หากอยู่ในช่วงประกันเขาก็เปลี่ยนให้ใหม่
แท็ปเล็ตราคา 2,400 บาท ค่าซ่อมก็อาจเกินครึ่งของตัวมันแล้ว หากเสียก็ Claim ประกันเปลี่ยนให้ใหม่ หากรัฐบาลตั้งงบประกัน 3 ปี ก็ไม่ต้องซ่อม เสียก็เปลี่ยนให้ใหม่ ผมไม่เห็นเครื่องมือพวกนี้จะซ่อมได้ครับ
PDA แต่ก่อนผมซื้อเป็นหมื่น พอเสียก็ต้องโยนทิ้งเพราะซ่อมไม่คุ้ม แต่ก็ใช้คุ้มแล้วครับ เครื่องพวกนี้มัน ผนึกแน่น ไม่เสียง่ายๆ แต่เสียก็ซ่อมไม่ได้ง่ายๆหรอกครับ
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น